วันนี้ (28 เมษายน 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มีเป้าหมายเป็นบรรดาหนุ่มสาวสายใต้สะดือ หรือผู้ที่มีชื่นชอบในพฤติกรรมกามารมณ์ โดยใช้กลวิธีต่าง ๆ ในการหลอกลวงเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน หรือแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากผู้เสียหาย
ซึ่งภัยมิจฉาชีพที่พุ่งเป้ามาที่บรรดาสายใต้สะดือ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังต่อไปนี้
1. “หลอกโอนเงินค่าซื้อ-ขายบริการทางเพศ” มักจะมาในรูปแบบเพจหรือกลุ่มลับนัดซื้อ-ขายบริการทางเพศ เมื่อติดต่อไปก็จะชักชวนให้เลือกคู่นอน โดยมีภาพหญิงสาวให้เลือกหลายคน เมื่อเหยื่อตัดสินใจเลือกแล้ว คนร้ายจะให้ติดต่อเพื่อนัดหมาย โดยจะใช้กลอุบายต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินให้ก่อน เช่น ต้องจองเวลา ต้องจ่ายค่าห้อง ต้องจ่ายค่าเดินทาง หรือถ้าโอนเงินมาก่อนจะได้รับโปรโมชันพิเศษ เป็นต้น
2. “หลอกถ่ายคลิปลามกอนาจาร” มักจะมาในรูปแบบบัญชีหนุ่มหล่อสาวสวย คุยสร้างความสัมพันธ์ จากนั้นจะชักชวนให้วิดีโอคอลขณะสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง หากหลงเชื่อก็จะถูกบันทึกภาพขณะทำกิจกรรมดังกล่าว จากนั้นมิจฉาชีพก็จะส่งคลิปมาข่มขู่เพื่อเอาทรัพย์สิน แลกกับการไม่เผยแพร่คลิปวิดีโอ
3. “หลอกชวนมีเพศสัมพันธ์” มักจะมาในรูปแบบบัญชีหนุ่มหล่อสาวสวย คุยสร้างความสัมพันธ์ จากนั้นจะนัดให้ไปร่วมหลับนอน ซึ่งเมื่อพบตัวจริงอาจไม่ตรงกับรูปในโปรไฟล์ หรือถ้าแย่กว่านั้น อาจตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ เช่น การชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ การข่มขืน หรือการแอบถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
4. “หลอกขายภาพ-คลิปลามก” มักจะมาในรูปแบบบัญชีหนุ่มหล่อสาวสวย เพจคนกลางซื้อขาย หรือกลุ่มลับต่าง ๆ ชักชวนพูดคุย อ้างว่าถ้าจ่ายเงินให้ จะส่งภาพและคลิปลามกของตนเองหรือหนุ่มสาวในสังกัดให้ดู แต่เมื่อจ่ายเงิน กลับได้แค่ภาพทั่วไป ไม่ได้ภาพและคลิปลามก จากนั้นคนร้ายหลอกเรียกเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อ้างว่าเป็นค่าประกันความเสี่ยงต่าง ๆ จนเหยื่อได้รับความเสียหายจำนวนมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในรูปแบบดังกล่าว และขอให้คอยสอดส่องบุตรหลานของท่านและบุคคลในครอบครัว ที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงโดยมิจฉาชีพที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และสำหรับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง